วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552

nissan march


′นิสสัน′ ประกาศคลอด′อีโคคาร์′ ก่อนทุกค่ายแน่นอน ดีเดย์ต้นปีหน้า ฟุ้งคืบหน้าไปแล้ว 80% เชื่อผลจากข้อกำหนดผลิต 5 แสนคันใน 5 ปีดันตลาดส่งออกคึกคัก





นางเพียงใจ แก้วสุวรรณ รองผู้จัดการใหญ่ รัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามนิสสัน ออโตโมบิล จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงความคืบหน้าของโครงการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานหรืออีโคคาร์ของนิสสันว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้วมากกว่า 70-80% แล้ว และเชื่อว่าจะสามารถอวดโฉมอีโคคาร์ได้ภายในปี 2553 อย่างแน่นอน




"เรามั่นใจกับโครงการนี้มาก ต่างจากค่ายอื่นที่เข้าร่วมขอรับการส่งเสริมทั้ง 6 ราย คงจะยังไม่มีใครกล้าออกมาประกาศอย่างเป็นทางการ เพราะเท่าที่ทราบตอนนี้อาจจะมีบางค่ายต้องเลื่อนแผนการส่งรถยนต์อีโคคาร์ออกไปซะด้วยซ้ำ โดยเฉพาะค่ายรถจากญี่ปุ่นทั้ง 4 ราย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายบริษัทแม่ของแต่ละค่าย เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาทุกค่ายต่างก็ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจการเงินของโลกเช่นเดียวกัน แต่สำหรับนิสสันนั้นขอยืนยันว่า ไม่มีการเลื่อนแผนงานโครงการอีโคคาร์แต่อย่างใด"


นางเพียงใจกล่าวว่า อีโคคาร์นิสสันเดินตามแผนทุกอย่างและยังยึดถือข้อกำหนดเดิมทุกประการ ก่อนได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอ บริษัทขอยืนยันว่า นิสสันพยายามสนองนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่ วันนี้รัฐบาลมีแผนงานในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ดีและชัดเจน โดยเฉพาะในปี 2553 ที่ประเทศไทยจะมีโปรดักต์แชมเปี้ยนตัวใหม่ และเป็นโอกาสและถือเป็นความหวังสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สำหรับรถยนต์อีโคคาร์ ที่จะช่วยผลักดันให้ไทยสามารถขยับอันดับการเป็นประเทศผู้ผลิตรถยนต์สำคัญของโลกขึ้นไปอยู่อันดับที่ 14 ได้อย่างแน่นอน สำหรับโปรดักต์แชมเปี้ยนตัวใหม่นี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความหวังของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เนื่องจากอีโคคาร์นี้ในส่วนของภาครัฐเองก็มีความพยายามที่จะสร้างให้เป็น


"นิชมาร์เก็ต" คือเป็นรถที่มีคุณภาพด้วยข้อกำหนด สเป็กที่สมบรูณ์แบบด้วยความเป็นรถยนต์ที่มีขนาดเล็กและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประกอบกับแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นอีกปัจจัยที่เชื่อว่าผู้บริโภคจะหันมาสนใจรถยนต์อีโคคาร์มากขึ้น ดังนั้นจึงเชื่อว่าโอกาสของรถประเภทนี้ยังมีสูง รวมถึงเป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทย


นางเพียงใจกล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยข้อกำหนดของสำนักงานส่งเสริมการลงทุนหรือ บีโอไอนั้น จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ตลาดส่งออกของประเทศไทยกลับมามีความคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะข้อกำหนดที่ทุกค่ายจะต้องมีการผลิตอีโคคาร์จำนวน 500,000 คัน ภายในระยะเวลา 5 ปีนั้น จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ค่ายรถยนต์ทั้ง 6 ค่ายต้องพยายามผลักดันและมองหาตลาดส่งออกเพิ่มมากขึ้น และนั่นคือโอกาสสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยด้วย ส่วนสถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้ เชื่อว่ายอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศจะอยู่ที่ 488,000 คัน ส่งออก 592,000 คัน ส่วนปีหน้าสำหรับตลาดส่งออกเชื่อว่าจะมีความคึกคักอีกครั้งอย่างแน่นอน

1 ความคิดเห็น: