วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Proton Exora มินิแวนราคาถูก


ตลาดมินิแวนในอาเซียนยุคนี้เป็นยุคแห่งรถยอดนิยมเลยก็ว่าได้โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซียและมาเลย์เซียที่ได้รับความนิยมมากเสียจนรถเก๋งบางประเภทอาจไม่ได้แจ้งเกิดเลยก็ได้หากไม่สามารถดึงจุดเด่นให้ลูกค้าจดจำ มาเลย์เซียถึงรถเก๋งยังได้รับความนิยมอยู่เหมือนเดิมแต่ตลาดมินิแวนกลับเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคู่แข่งจุดประกายการแข่งขันให้รุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อ Toyota ส่ง Avanza และ Innova,Suzuki ส่ง APV รวมทั้ง Nissan เองก็ส่ง Grand Livina ซึ่งประสบความสำเร็จมากในอินโดนีเซียลงมาแข่งขันกันด้วย ยังไม่นับรวม Honda Freed และ Perodua Minivan ที่นำโฉมหน้า Toyota Passo Sette มาประกอบขายด้วย แล้ว Proton ยักษ์ใหญ่แห่งมาเลย์เซียจะนิ่งเฉยอยู่หรือไร แน่นอนคงไม่หยุดเป็นเป้านิ่งในสายตาคู่แข่ง เตรียมซุ่มพัฒนากว่า 3 ปี โดยเฉพาะช่วงที่เคาะแบบเสร็จเรียบร้อยตอนสิงหาคม-กันยายน ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ค่อย ๆ ถาโถมเรื่อย ๆ ตลอดเวลาที่พัฒนาก็หมั่นเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาดยอดนิยมทั้ง Avanza และ Grand Livina ว่ารถของตนจะมีจุดเด่นความอเนกประสงค์เหนือชั้นกว่า Proton คาดหวังกับโปรเจคท์มินิแวนคันนี้มากถึงขั้นวางแผนการตลาดปล่อยทีเซอร์สร้างการรับรู้เนิ่น ๆ ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเพื่อรอการเปิดตัววันที่ 15 เมษายนปีนี้ จงอย่าแปลกใจว่าเป็นเกมการตลาดแบบใหม่แต่เคยทำมาก่อนหน้านั้นหลายครั้งแล้ว
เมื่อเกมส์การตลาดสร้างจุดสนใจเพื่อชะลอการซื้อรถคู่แข่งก็ต้องนำเสนอความเหนือชั้นกับลูกค้าตลอด ได้แก่ ขนาดตัวถังที่ใหญ่ที่สุดในตลาด ใหญ่กว่า Toyota Innova และ Kia Rondo ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่ใหญ่กว่าอีกด้วยความยาว 4,592 มม. กว้าง 1,809 มม. สูง 1,691 มม. ฐานล้อยาว 2,730 มม. น้ำหนักเบากว่า

ประมาณ 1,422-1,442 กิโลกรัม ดีไซน์ภายนอกก็ดูใหญ่กว่าคู่แข่งอย่างชัดเจนด้วยดีไซน์ที่ดูทึบกว่าไม่เน้นความปราดเปรียวหรือโค้งมนมากเกินไป ดูเผิน ๆ ละม้ายคล้าย Toyota Wish และ Mitsubishi Spacewagon มารวมกันกลายเป็นทรงมาตรฐานมินิแวนยุคปัจจุบัน ถูกวางบนแพลทฟอร์มยุคใหม่ของ Proton ที่พัฒนาร่วมกับ LG CNS ด้านหน้าแมคเฟอสันสตรัท ด้านหลัง ทอร์ชันบีมเพื่อเพิ่มเนื้อที่ห้องโดยสารมากกว่ามัลติลิงค์ ยืนยันว่าจะนำไปใช้กับรถยนต์ทุกประเภทตั้งแต่รถเล็ก 1.3 ลิตรไปจนถึงรถใหญ่เครื่อง V6

Exora ให้พละกำลัง 1.6 ลิตร 125 แรงม้า 150 นิวตันเมตรสร้างความกังขาว่าจะมีแรงวิ่งไหวไหม? เพราะอัตราพละกำลัง/น้ำหนักมากกว่าคู่แข่ง จับคู่กับเกียร์ชุดเดียวกับ Waja ที่มีอัตราทดเหมือนเดิม แต่ปรับอัตราทดเกียร์ขั้นสุดท้ายให้ดียิ่งขึ้น เคลมว่าวิ่งที่ความเร็ว 80 กม./ชม.ใช้รอบที่ 2,400 และความเร็ว 110 กม./ชม. ใช้รอบที่ 3,000 ทำอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 9.2 ลิตร/100 กม. ห้องโดยสาร Proton เคลมว่าใหญ่ที่สุดในคลาสโดยเฉพาะแถวที่ 3 ผู้โดยสารสูง 182 ซม.นั่งได้สบาย ๆ ทั้งยังติดตั้งช่องแอร์ให้พร้อมทั้ง 3 แถวสู้อากาศเมืองร้อนมาเลย์เซียได้ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกชนิดที่คู่แข่งต้องเหลียวหลังได้แก่ Criuse Control,เครื่องเล่น DVD พร้อมจอ LCD บริเวณเพดานตอนหน้า ,ติดตั้ง GPS ระบบสัมผัส ใช้ชิปเซ็ตของ Atmel ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดอัพเดทแผนที่ผ่านศูนย์บริการได้ ใช่ว่าจะกวาดยอดขายไปอย่างสบาย ๆนักเพราะคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง Perodua ที่ Daihatsu มีหุ้นส่วนอยู่เตรียมส่งมินิแวนที่เป็นโฉมเดียวกับ Toyota Passo Sette/Daihatsu Boon Luminas มาจำหน่ายเร็ว ๆ นี้ถึงรถจะเล็กกว่าแต่เชื่อว่าคุณภาพการขับขี่คาดว่าน่าจะดีกว่า ขอให้จับตาศึกมินิแวนในมาเลย์เซียจะปะทุร้อนแรงเพียงไหน


วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552

Mazda 2 ใหม่















Mazda ประเทศไทย ได้ข้อสรุปเรื่องการเปิดตัวรถเล็กอย่าง Mazda 2 ที่เตรียมออกมาชน Honda Jazz และ Toyota Yaris หรือแม้แต่รถเล็กในระดับใกล้เคียงกัน งานนี้ Mazda จัดให้ในราคาเริ่มต้นที่ 5.5-5.7 แสนบาท สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา รุ่น S MT โดยมีราคารุ่นท็อปสุดอยู่ที่ประมาณ 7.15 แสนบาท คือรุ่น R AT ซึ่ง Mazda เตรียมเผยโฉมในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ แต่ตอนนี้ผู้ที่สนใจสามารถทำการจองได้ทุกโชว์รูมครับ



มาสด้า เตรียมเปิดตัวมาสด้า 2 รุ่นเล็ก ตั้งราคาหายใจรดต้นคอฮอนด้า แจ๊ซ ประเดิม 4 รุ่นให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ เริ่มต้นที่ 5.5 แสนบาท ต่างจากแจ๊ซหมื่นกว่าบาท พร้อมเผยโฉมทุกโชว์รูม 6 พ.ย. ศกนี้ เปิดจองได้ทุกโชว์รูมแล้ว



แหล่งข่าวจากบริษัทมาสด้า ประเทศไทยฯ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มาสด้าได้เตรียมเปิดตัวรถยนต์ขนาดเล็กรุ่นใหม่มาสด้า 2 ในตลาดประเทศไทย โดยขณะนี้ได้สรุปรายละเอียดการเปิดตัวเป็นที่เรียบร้อย เพื่อขออนุมัติจากบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่นในเร็วๆนี้





ทั้งนี้ราคาจำหน่ายของมาสด้า 2 นั้นเริ่มต้นที่ 5.5-5.7 แสนบาท ในรุ่นเกียร์ธรรมดา รุ่น S MT ตามด้วยรุ่น S AT นั้นราคาเพิ่มขึ้นเป็น 5.87-6.07 แสนบาท ส่วน 2 รุ่นท็อปนั้นราคา 6.40-6.60 แสนบาทในรุ่น V AT และ 6.95-7.15 แสนบาทในรุ่นท็อปสุด R ATที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ตกแต่งรวมทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว กุญแจรีโมต จอแสดงอัตราการบริโภคน้ำมัน เครื่องเล่นซีดี 6 แผ่น และปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย




“ตอนนี้ได้เปิดรับจองจากลูกค้าแล้ว โดยราคาจำหน่ายของมาสด้า 2 เมื่อเปรียบเทียบกับรถในเซ็กเมนต์เดียวกัน อย่างฮอนด้า แจ๊ซที่เป็นเจ้าตลาดนั้นจะเห็นว่าราคาไม่แตกต่างกันมาก โดยมาสด้า 2 จะถูกกว่าเล็กน้อย และได้เปรียบในเรื่องความสดใหม่และหน้าตาที่โฉบเฉี่ยว ทั้งนี้มาสด้าจะเน้นการทำตลาดในรุ่นท็อป 2 รุ่น เป็นหลักถึง 70% ของยอดขายทั้งหมด”แหล่งข่าวกล่าวและว่า





สำหรับแผนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ขนาดเล็กของมาสด้านั้น ได้ถูกกำหนดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดตัว แต่กำหนดการนำรถมาโชว์ตามโชว์รูมทั่วประเทศนั้น คาดว่ามาสด้า ประเทศไทยพร้อมที่จะส่งรถให้ดีลเลอร์ทั่วประเทศราว 6 พ.ย. ศกนี้ ซึ่งเป็นช่วงของฤดูการขาย คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายของมาสด้าให้กระเตื้องขึ้นอย่างมากในช่วงปลายปีนี้










อย่างไรก็ตามรถรุ่นที่จะนำมาเปิดตัวนี้จะเป็นแบบ 5 ประตูเพียงอย่างเดียว ส่วนแบบที่เป็น 4 ประตูนั้น ยังไม่มีกำหนดการที่เปิดตัว แต่คาดว่าพร้อมที่จะเผยโฉมและจำหน่ายในประเทศไทยได้ภายในปี 2553
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า สำหรับมาสด้า 2 นี้ ได้ติดตั้งเครื่องยนต์รุ่น 1.5 ลิตร จะมีระบบ Variable Induction System ติดตั้งเพิ่มเติมเพื่อกำลังที่ต่อเนื่องทุกช่วงรอบการทำงาน โดยมีกำลัง 103 แรงม้า แรงบิด 13.9 กก.-ม.














สำหรับยอดจำหน่ายรวม รถมาสด้าประจำเดือน กรกฎาคม2552 ที่ผ่านมานั้นพบว่ายอดขายได้ กลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 15 เดือน ด้วยยอดการจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 816 คัน เติบโตเพิ่มเกือบ 15 % ตัวเลขดังกล่าวมาจากกลุ่มรถกระบะ มาสด้า บีที- 50 เป็นหลัก ด้วยยอดขาย 442 คัน ส่วนเก๋งมาสด้า 3 ทำตัวเลขแตะ 367คัน





อนึ่ง มาสด้า 2 นี้ประกอบขึ้นจากโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ประเทศไทย ที่จังหวัดระยอง ซึ่งรุ่นที่จะเปิดตัวนี้เป็นแบบ 5 ประตู ส่วนแบบ 4 ประตูนั้นยังไม่มีกำหนดการที่แน่นอน และสำหรับโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ นี้ เป็นโรงงานร่วมทุนระหว่างฟอร์ดและมาสด้า ซึ่งในส่วนของฟอร์ดนั้นก็มีแผนการประกอบรถฟอร์ด เฟียสต้า เพื่อจำหน่ายในประเทศไทยในช่วงต้นปี 2553 โดยรถทั้งสองรุ่นนี้จะผลิตเพื่อป้อนตลาดต่างประเทศด้วย ทั้งในภูมิภาคอาเซียนออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแอฟริกาใต้





ที่มา: หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2458 03 ก.ย.- 05 ก.ย.2552





nissan march


′นิสสัน′ ประกาศคลอด′อีโคคาร์′ ก่อนทุกค่ายแน่นอน ดีเดย์ต้นปีหน้า ฟุ้งคืบหน้าไปแล้ว 80% เชื่อผลจากข้อกำหนดผลิต 5 แสนคันใน 5 ปีดันตลาดส่งออกคึกคัก





นางเพียงใจ แก้วสุวรรณ รองผู้จัดการใหญ่ รัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามนิสสัน ออโตโมบิล จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงความคืบหน้าของโครงการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานหรืออีโคคาร์ของนิสสันว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้วมากกว่า 70-80% แล้ว และเชื่อว่าจะสามารถอวดโฉมอีโคคาร์ได้ภายในปี 2553 อย่างแน่นอน




"เรามั่นใจกับโครงการนี้มาก ต่างจากค่ายอื่นที่เข้าร่วมขอรับการส่งเสริมทั้ง 6 ราย คงจะยังไม่มีใครกล้าออกมาประกาศอย่างเป็นทางการ เพราะเท่าที่ทราบตอนนี้อาจจะมีบางค่ายต้องเลื่อนแผนการส่งรถยนต์อีโคคาร์ออกไปซะด้วยซ้ำ โดยเฉพาะค่ายรถจากญี่ปุ่นทั้ง 4 ราย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายบริษัทแม่ของแต่ละค่าย เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาทุกค่ายต่างก็ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจการเงินของโลกเช่นเดียวกัน แต่สำหรับนิสสันนั้นขอยืนยันว่า ไม่มีการเลื่อนแผนงานโครงการอีโคคาร์แต่อย่างใด"


นางเพียงใจกล่าวว่า อีโคคาร์นิสสันเดินตามแผนทุกอย่างและยังยึดถือข้อกำหนดเดิมทุกประการ ก่อนได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอ บริษัทขอยืนยันว่า นิสสันพยายามสนองนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่ วันนี้รัฐบาลมีแผนงานในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ดีและชัดเจน โดยเฉพาะในปี 2553 ที่ประเทศไทยจะมีโปรดักต์แชมเปี้ยนตัวใหม่ และเป็นโอกาสและถือเป็นความหวังสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สำหรับรถยนต์อีโคคาร์ ที่จะช่วยผลักดันให้ไทยสามารถขยับอันดับการเป็นประเทศผู้ผลิตรถยนต์สำคัญของโลกขึ้นไปอยู่อันดับที่ 14 ได้อย่างแน่นอน สำหรับโปรดักต์แชมเปี้ยนตัวใหม่นี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความหวังของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เนื่องจากอีโคคาร์นี้ในส่วนของภาครัฐเองก็มีความพยายามที่จะสร้างให้เป็น


"นิชมาร์เก็ต" คือเป็นรถที่มีคุณภาพด้วยข้อกำหนด สเป็กที่สมบรูณ์แบบด้วยความเป็นรถยนต์ที่มีขนาดเล็กและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประกอบกับแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นอีกปัจจัยที่เชื่อว่าผู้บริโภคจะหันมาสนใจรถยนต์อีโคคาร์มากขึ้น ดังนั้นจึงเชื่อว่าโอกาสของรถประเภทนี้ยังมีสูง รวมถึงเป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทย


นางเพียงใจกล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยข้อกำหนดของสำนักงานส่งเสริมการลงทุนหรือ บีโอไอนั้น จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ตลาดส่งออกของประเทศไทยกลับมามีความคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะข้อกำหนดที่ทุกค่ายจะต้องมีการผลิตอีโคคาร์จำนวน 500,000 คัน ภายในระยะเวลา 5 ปีนั้น จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ค่ายรถยนต์ทั้ง 6 ค่ายต้องพยายามผลักดันและมองหาตลาดส่งออกเพิ่มมากขึ้น และนั่นคือโอกาสสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยด้วย ส่วนสถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้ เชื่อว่ายอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศจะอยู่ที่ 488,000 คัน ส่งออก 592,000 คัน ส่วนปีหน้าสำหรับตลาดส่งออกเชื่อว่าจะมีความคึกคักอีกครั้งอย่างแน่นอน

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

TOYOTA AYGO รถ1ในสามทหารเสือโจมตีตลาด A-segment พร้อมกับข่าวอีโคคาร์ในไทย

Toyota Aygo>>

TOYOTA Aygo, Thailand's ECO Car? แม้โครงการ ECO Car ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่นอน แต่คุณสมบัติหลัก ๆ เช่นต้องเป็นรถขนาดเล็ก ราคาถูก มีมลพิษต่ำ มีอัตราการประหยัดน้ำมันสูง ซึ่งดูเหมือนว่า TOYOTA Aygo สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน และถ้าโครงการ ECO Car >>เกิดขึ้นจริง>ในอนาคต เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเห็นรถยนต์เซ็กเมนต์ใหม่อย่าง Aygo มาทำตลาดในเมืองไทย
Aygo เป็นซิตี้คาร์ขนาดจิ๋ว มาพร้อมรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย >>ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT-i สามารถสร้างแรงม้าได้ 67 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิด 9.4 กก.-ม.ที่ 3,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ธรรมดาแบบ Multi-mode Manual Transmission (MMT) ผู้ขับสามารถเปลี่ยนเกียร์โดยที่ไม่ต้องเหยียบคลัตช์ หรือถ้าขี้เกียจเปลี่ยนเกียร์ก็สามารถเลือกโหมดอัตโนมัติได้

และยังมีเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.4 ลิตร 53 แรงม้าสำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัดอีก ด้วยถึงแม้จะเป็นรถขนาดเล็ก แต่เรื่องระบบความปลอดภัยสามารถไว้วางใจได้ ด้วย โครงสร้างตัวถังแบบ MICS (Minimal Intrusion Cabin System) ที่สามารถยุบตัว และซับแรงกระแทกจากการชนทุกทิศทาง เพื่อรักษาโครงสร้างของห้องโดยสารไว้ จนสามารถผ่านการทดสอบการชนของ Euro NCAP ในระดับ 4 ดาว ส่วนระบบความปลอดภัยด้าน Active safety ก็มีทั้งระบบเบรก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD


Aygo จะถูกผลิตขึ้นที่โรงงานแห่งใหม่ในสาธารณรัฐเชค ที่ทาง TOYOTA ได้ร่วมมือ กับ PSA Peugeot Citroen พัฒนารถขนาดเล็กและใช้แพลตฟอร์มร่วมกันมีกำลังการผลิต300,000 คันต่อปี และ 1 ใน 3 นั้นก็จะเป็น Aygo ทาง TOYOTA เปิดตัว Aygo ที่ ประเทศอังกฤษ เป็นที่แรกในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และตั้งยอดจำหน่ายในปีนี้ที่ >>3,400 >>คัน และจะเพิ่มเป็น 13,000 คัน ในปี 2006


TOYOTA Aygo รหัสเครื่องยนต์ 1KR-FE แบบเครื่องยนต์ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ปริมาตรกระบอกสูบ 998 ซี.ซี. กำลังสูงสุด 67 แรงม้า/6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 9.4 กก.-ม./3,600 รอบ/นาที ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด (MMT) ระบบพวงมาลัย แร็ค แอนด์ พิเนี่ยน พร้อมเพาเวอร์ ESP ระบบกันสะเทือน (หน้า/หลัง) แม็คเฟอร์สันสตรัท/ทอร์ชั่นบีม ระบบเบรก (หน้า/หลัง) ดิสก์/ดรัม มิติ (ย. x ก. x ส.) 3,405 x 1,615 x 1,465 มม. ความยาวฐานล้อ 2,340 มม. ยาง 155/65 R14 น้ำหนักรถเปล่า 890 กก. อัตราเร่ง 0-100>>กม./ชม. 14.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 157 กม./ชม.

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Citroen GT ทะลุจอเกม Playstation โผล่กลางลอนดอน



Citroen GT หรือ GT by Citroen ซุปเปอร์คาร์แนวคิดที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างโลกแห่งความจริงและโลกแฟนตาซี ซึ่งเดิมถูกสร้างขึ้นมาในเกมรถแข่งของ Sony ที่ชื่อ Gran Turismo 5 โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ ได้ไปโผล่กลางเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษโดยมีแบ็คกราวน์เป็นสถานที่สำคัญของกรุงลอนดอน ถือว่าเป็นการปรากฎโฉมครั้งแรกของซุปเปอร์คาร์ที่มีความยาว 5 เมตรนี้ที่เมืองผู้ดี


คาดกันว่า รถยนต์รุ่นนี้จะมีการผลิตขึ้นมาจริงแต่ในจำนวนที่จำกัดหลังจากที่ได้รับการตอบรับอย่างดีตั้งแต่โชว์โฉมในงานมอเตอร์โชว์ที่กรุงปารีสเมื่อปีที่ผ่านมา Citroen GT เตรียมทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่อังกฤษในงาน Goodwood Festival of Speed ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3-5 กรกฎาคมหรือเดือนหน้านี้


ตกลงที่อยู่ๆก็มาโผล่ที่ลอนดอนก็เพราะมีงานเข้านี่เอง

วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552

All-New Nissan Skyline Crossover 2010


สาวกของ Nissan คงทราบกันดีว่า Infiniti EX ที่ทำตลาดในยุโรปจะเข้ามาทำตลาดในญี่ปุ่นแล้วในช่วงซัมเมอร์นี้ภายใต้ชื่อ Nissan Skyline Crossover ถือว่าเป็นสมาชิกอีกรุ่นในตระกูล Skyline ที่รวมถึง Infiniti Sedan และ Coupe


และก็เช่นเดียวกับ EX เวอร์ชั่นยุโรป Skyline Crossover รุ่นนี้จะใช้เครื่องยนต์ V6 VQ37VHR ขนาด 3.7 ลิตร โดยใช้เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะพร้อมโหมด Manual Shift




All-New Skyline Crossover จะเปิดแสดงที่ Nissan Galleries ในญี่ปุ่นในวันพรุ่งนี้(18 เมษายน) เป็นต้นไปครับ ไม่ต้องไปถึงญี่ปุ่นก้ชมได้ครับ ใน gallery ที่จัดมา



วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Honda 2010

Honda 2010

ส่วนด้านหน้าคล้ายกับตัว Honda steam


ส่วนด้านหลังคล้ายกับ TOYOTA Preus แต่ดูดีกว่าเล็กน้อย




ห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย







designภายนอกดูโฉบเชี่ยวเข้ากับรูปรูปลักษณ์ของรถภายนอกนั้น

แผงconsoleดูทันสมัยสวยแบบมีเสน่ห์เข้ากับภายในห้องโดยสารที่เป็นเบาะหนัง